รายงานพิเศษเรื่อง จังหวัดตรัง กับการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือภัยพิบัติด้านการเกษตรในช่วงหน้าฝน ปี 2567 ผู้ประกาศ : ท่านผู้ฟังคะ/ครับ ในช่วงเดือนสิงหาคม กันยายนและตุลาคม เป็นช่วงที่มีฝนตกชุกหนาแน่นที่สุด ซึ่งส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในหลายพื้นที่และก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายพื้นที่ จังหวัดตรัง เตรียมรับสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะภัยพิบัติด้านการเกษตรอย่างไร ติดตามได้จาก รายงานค่ะ/ครับ ผู้รายงาน : จังหวัดตรัง จัดเตรียมแนวทางการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้านการเกษตร ในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เป็นการเตรียมรับสถานการณ์อุทกภัย ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตร ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายให้แก่ผลผลิตทางการเกษตรเป็นวงกว้าง โดยนางสาวกิตติยา สุปันดี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ภาคเกษตรของจังหวัดตรังมีความสำคัญ โดยในปี 2565 ตรังมี GPP ภาคการเกษตรถึง 22,486 ล้านบาทบาท คิดเป็นร้อยละ 30.60 อีกทั้งจังหวัดตรัง มีพื้นที่ทำการเกษตรถึง 1.76 ล้านไร่คิดเป็นร้อยละ 57.14 ของพื้นที่ทั้งหมดของจังหวัดตรังและมีครอบครัวเกษตรกรกว่า 81,000 กว่าครอบครัว นางสาวกิตติยา สุปันดี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตรัง ทั้งนี้ ได้จัดทำแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้านการเกษตรในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานป้องกันและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติด้านการเกษตร ผลกระทบจากปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งในและนอกกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการเตรียมความพร้อมของส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสามารถฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว นางสาวกิตติยา สุปันดี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตรัง สำหรับ การเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงหน้าฝนที่จะเกิดขึ้นต่อภาคการเกษตร ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัดตรัง ได้ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยได้วิเคราะห์ข้อมูลปริมาณน้ำฝน ปริมาณน้ำท่า ประเมินพื้นที่เสี่ยงด้านการเกษตร เตรียมการป้องกันและบริหารจัดการสถานการณ์และพื้นที่เสี่ยงจากอุทกภัย ทั้งด้านพืช ประมงและปศุสัตว์ โดยจัดเตรียมความพร้อมของเครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักร ยานพาหนะ การสํารองเสบียงอาหารสัตว์/เวชภัณฑ์และเมล็ดพันธุ์พืชให้ เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกร การลงพื้นที่เชิงรุกให้บริการปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน ติดตามสถานการณ์เพื่อป้องกันโรคระบาดพืชและสัตว์ จัดหน่วยเฉพาะกิจลงพื้นที่เพื่อให้คําแนะนําและความช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัย การดูแลสุขภาพสัตว์ แผนการสํารวจและประเมินความเสียหาย วิธีการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และแผนการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้เกษตรกรรู้จักเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ภัยพิบัติด้วย