สารคดีเชิงข่าวเรื่อง ผู้ประกอบการผลิตและส่งออกอาหารทะเลจังหวัดตรัง และการใช้ประโยชน์จาก FTA

     สารคดีเชิงข่าวเรื่อง ผู้ประกอบการผลิตและส่งออกอาหารทะเลจังหวัดตรัง และการใช้ประโยชน์จาก FTA FTA ( Free Trade Area ) หรือเขตการค้าเสรี เป็นการทำความตกลงทางการค้าของประเทศ อาจเป็น 2 ประเทศ (ทวิภาคี) หรือเป็นกลุ่มประเทศ (พหุภาคี) ที่จะร่วมมือขจัดอุปสรรคทางการค้าทั้งที่เป็นภาษีศุลกากรและไม่ใช่ภาษีศุลกากร โดยแนวคิดของการมีนโยบายการค้าเสรี คือประเทศจะเลือกผลิตสินค้าที่ตนเองถนัด และมีต้นทุนการผลิตต่ำที่สุด คือจะผลิตสินค้าที่คิดว่าประเทศตนได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ (Comparative Advantage)มากที่สุด แล้วนำสินค้าที่ผลิตได้นี้ไปแลกเปลี่ยนกับสินค้าที่ประเทศตนไม่ถนัด หรือเสียเปรียบ โดยแลกเปลี่ยนสินค้ากับประเทศอื่นที่ผลิตสินค้าแล้วได้เปรียบ ดังนั้นประเทศทั้งสองก็จะทำการค้าต่อกันได้ โดยต่างฝ่ายต่างสมประโยชน์กัน (Win-Win Situation) ด้านนายบุญชู ศัยศักดิ์พงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ตรังผลิตภัณฑ์อาหารทะเล จำกัด (มหาชน) (TRS) ซึ่งเป็นบริษัท ที่ผลิตและส่งออกอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดตรัง โดยส่งออกไปยังจีน ญี่ปุ่นและอิตาลี กล่าวว่า ในภาพรวมแล้วการทำ FTA มีทั้งผลดีและผลกระทบ หากจะวิเคราะห์แต่ละด้านของแต่ละ FTA จะมีบางกลุ่มอุตสาหกรรม บางกลุ่มสินค้าได้ประโยชน์ บางกลุ่มสินค้าไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม กลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบ การเจรจาก็สามารถยืดเวลาในการลดหรือยกเว้นภาษีออกไปจนกว่าภาคการผลิตจะสามารถปรับตัวได้ หรือภาครัฐจะเข้ามาช่วยเหลือ เยียวยา ชดเชยผลกระทบเหล่านั้นในภาพรวม การทำ FTA น่าจะมีประโยชน์ ในด้านการลดอุปสรรคทางการค้าทั้งที่เป็นอุปสรรคทางภาษี และที่มิใช่ภาษี เพิ่มมูลค่าในทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิกเพิ่มโอกาสการส่งออก ได้ตลาดใหม่ และขยายตลาดเดิม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนสร้างอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจ การเมือง ให้ความร่วมมือทางด้านศุลกากร การแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูลการลักลอบ หลีกเลี่ยง และสินค้าอันตราย สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์พัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจ และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจอื่น ๆ และเทคโนโลยีการผลิต รวมถึงสร้างความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น